คำ “ตำหนิ” อย่างสร้างสรรค์ มีค่ามากกว่าคำ “ชื่นชม” ลอยๆ

คำ ตำหนิ อย่างสร้างสรรค์ มีค่ามากกว่าคำ ชื่นชม ลอยๆ

หลายคนมองว่าวงการ e-sport ก้าวไปไกลอย่างมากในต่างประเทศ หลายๆ ที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการสร้างทีมนักกีฬาเพื่อที่จะแข่งเกมแบบจริงๆ จังๆ จัดแข่งขัน

วิธีเล่นเกมส์ หรือแม้แต่หันมาเปิดสอนอีสปอร์ต เบรกความคิดนั้นไว้แล้ววกกลับหันมามองที่บ้านเรากันสักนิด… ถึงแม้จะมีกลุ่มคนไม่น้อยที่คอยผลักดันวงการนี้ให้ทัดเทียม หรือเติบโตมากกว่าเดิมยิ่งขึ้นก็ตาม แต่คิดว่าเราแตกต่างจากตอนที่เริ่มแล้วหรือเปล่า? คำตอบคือ “ไม่” เลยครับ เราแทบจะไม่ได้ก้าวขาออกจากจุดเริ่มต้นเลยแม้แต่น้อย เราเป็นรองทุกอย่าง เพราะอะไรล่ะ? ประเทศไทยมีสังกัด e-Sport ไม่ได้น้อยไปกว่าต่างประเทศหรอกนะครับ เพียงแต่ว่า การเล่นเกมเป็นอาชีพ ไม่ได้เป็นที่ยอมรับสักเท่าไรในสังคมบ้านเรา และถึงแม้จะถูกยอมรับ แต่ก็ยึดเป็นอาชีพหลักที่จะมาหาเลี้ยงครอบครัวแทบจะไม่ได้ นอกเสียจากการเป็นนักกีฬา หรือที่เราเรียกติดปากว่า “Pro Player” ฉะนั้นแล้วคนที่จะเป็นโปรเพลย์เยอร์ในบ้านเราจึงมีน้อยกว่า “คนที่คิด” จะเป็นอยู่ค่อนข้างมากทีเดียวในเมื่อมันไม่ใช่อาชีพที่หาเลี้ยงอะไรได้มากนัก นอกเสียจากการล่าเงินรางวัลจากการแข่งขัน

คำ ตำหนิ อย่างสร้างสรรค์ มีค่ามากกว่าคำ ชื่นชม ลอยๆ

จึงมีทีมและนักกีฬาที่ต้องการคว้าแชมป์ให้ได้เพิ่มขึ้นมา (บ้าง) แต่แม้ว่าในประเทศจะมีการแข่งขันมาเป็นสิบๆ รายการตลอดหนึ่งปี แต่คนที่อยากได้แชมป์มี 100 คน แต่แชมป์มีเพียงแค่ 1 เท่านั้น เพราะแบบนั้น จำนวนคนที่คว้าแชมป์กับคนที่ผิดหวังมันจึงสวนทางกัน

การไปแข่งต่างประเทศก็เช่นเดียวกัน มันก็เหมือนออกจากประตูบ้านสู่โลกภายนอกล่ะครับ การที่ต้องเผชิญหน้าคนทั่วโลก มีสายตาจับจ้องมาที่ตัวคุณเป็นพันล้านดวง ไม่ว่าจะโดยตรงหรือจากโลกออนไลน์ แรงกดดันมหาศาลที่ต่อให้คนไม่เคยลงแข่งอย่างผมอธิบายยังไงก็พูดไม่หมดอยู่ดี เหมือนกับนักกีฬาทีมชาติที่ต้องลงสู่สังเวียนโดยมีผู้คนทั่วประเทศจับตามองผู้ที่ชนะในการแข่งขันก็จะได้รับสิ่งตอบแทน ข่าววิธีเล่นเกมส์ ไม่ว่าจะเป็นเงินรางวัล คำชื่นชม สรรเสริญมากมาย แต่มันก็มีเพียงแค่คนเดียวหรือทีมเดียวเท่านั้น กลับกันแล้วคนที่แพ้จะได้อะไรกันเล่า? แรงกดดัน ความเสี่ยงต่างๆ นานา กลายเป็นว่าตกอยู่ในกลุ่มคนที่แพ้ และคิดว่าคนๆ หนึ่งจะสามารถรับแรงกดดันขนาดนั้นได้แค่ไหนกันล่ะครับ?